Thursday, June 10, 2010

หายไปดื้อๆ ลูกปืนที่ศพน้องเกด




ทีมกู้ชีพที่ออกมาทวงยุติธรรมให้เพื่อน 4 ศพถูกยิงตาย ตั้งข้อสงสัยหัวกระสุนที่ศพ "น้องเกด" หายไปไหน เพราะมีหลักฐานตอนชันสูตรศพในวัดปทุมฯ เจอหัวกระสุนโผล่ที่หน้าท้องศพ เป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถโยงถึงคนลั่นไกได้ แต่ศอฉ.กลับไม่มีแถลงผลการตรวจพิสูจน์เลย เผยหลังออกมาร้องเรียนมีคนให้กำลังใจเยอะ เพราะรับไม่ได้ที่ทีมกู้ชีพกลับกลายเป็นเหยื่อปืนเสียเอง แม่น้องเกดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกสาวที่จุดโดนยิงตายในวัดปทุมฯ เจอแล้ว 1 ใน 4 ศพไร้ญาติฝังสุสานศรีราชา เป็นด.ช.วัย 15 ปี คนรู้จักระบุเป็นเด็กเร่ร่อนย่านมักกะสัน บอกจะไปหาข้าวกินในม็อบ แต่กลับโดนยิงตาย

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายวสันต์ สายรัศมี กล่าวว่า หลังจากที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ 4 ศพหน่วยกู้ชีพและอาสาพยาบาล มีคนติดต่อให้กำลังใจจำนวนมาก เพราะเห็นว่าหน่วยกู้ชีพไม่ควรต้องมาโดนยิงเสียชีวิตแบบนี้ นอกจากนี้ พวกตนยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการชันสูตรน.ส.กมนเกด หรือเกด เพราะในวันรุ่งขึ้นคือเช้าวันที่ 20 พ.ค. มีพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติ วิทยาศาสตร์ พร้อมทีมงานชันสูตรพลิกศพ น.ส.กมนเกด หรือเกด ในเบื้องต้นนั้น ตนยืนถ่ายวิดีโอตลอดเวลา ซึ่งสังเกตเห็นว่ามีหัวกระสุนฝังอยู่ที่หน้าท้องของเกด 1 นัด เห็นหัวกระสุนชัดเจนแล้วยังถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังเห็นรอยกระสุนตุงอยู่ที่ใต้รักแร้ข้างขวา ตอนนั้นหมอพรทิพย์ยังบอกว่าให้เอาปลาสเตอร์มาปิดหัวกระสุนไว้ เพราะเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี แต่หลังจากนั้นมีการแถลงข่าวการชันสูตรศพกลับไม่มีการพูดถึงหัวกระสุนดังกล่าวเลย

ส่งบุญ - นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่"น้องเกด" ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกสาว โดยไปยืนไว้อาลัยบริเวณจุดที่ลูกสาวถูกยิงตายในวัดปทุมฯด้วย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.
พวกผมมีข้อสงสัยมาก ตอนที่ร่วมกันชันสูตรศพเกดในวัดก็เห็นอยู่ว่ามีหัวกระสุนชัดเจน แต่ทำไมถึงไม่มีการตรวจพิสูจน์หัวกระสุนเลย ทั้งที่หัวกระสุนถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่จะสามารถสืบสาวไปถึงคนที่ยิงได้ และการเสียชีวิตทั้งประชาชนและกู้ชีพ 6 ศพในวัดปทุมฯ ถามว่ากระสุนมาจากไหน สิ่งที่ผมเห็นก็คือวิถีมาจากที่สูงบริเวณหน้าวัดแน่นอน และยิงลงมาใส่หน่วยกู้ชีพ ซึ่งแปลกใจมากว่าทำไมต้องยิงอาสากู้ชีพด้วย ทั้งที่พวกเรามีหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตผู้บาดเจ็บ ไม่มีปืนในมือไปสู้รบกับใคร"

นายวสันต์ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุ หน่วยแพทย์ที่อยู่ในวัดตอนนั้น ติดสัญลักษณ์ชัดเจน ใส่เสื้อกาชาดทุกคน แต่ก็ยังโดนยิง ของตนใส่เสื้อสีขาว มีตรากาชาดทั้งหน้าและหลังก็ยังโดนไล่ยิง ทุกคนจะมีบัตรคล้องคอ มีปลอกแขนที่เราติดไว้เป็นปกติ แต่กลับไม่ได้ช่วยประโยชน์อะไรเลย กลับกลายเป็นเป้าปืน กราดยิงเข้ามาในเต็นท์พยาบาลจนมีคนตาย ทั้งที่ในเต็นท์มีแต่ยา เครื่องมือช่วยชีวิต ไม่มีอาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว

ที่มา วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7133 ข่าวสดรายวัน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNekV3TURZMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOaTB4TUE9PQ==

No comments:

Post a Comment