Wednesday, June 9, 2010

พยานที่บาดเจ็บยัน-ทหารยิง

พยานที่บาดเจ็บยัน-ทหารยิง

ยืนยัน - นายเพิ่มสุข ใจเย็น ชาวจ.นครพนม ซึ่งบาดเจ็บมาจากวัดปทุมฯ เปิดให้ดูบาดแผลกระสุนที่ก้นและโคนขาขวา ยืนยัน 100% ว่าทหารยิงลงมาจากรางรถไฟฟ้า ถ้าหลบเข้าใต้ท้องรถไม่ทัน อาจถึงตายวันเดียวกัน นายเพิ่มสุข ใจเย็น อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ถ.ราชทัณฑ์ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่ทหารกราดยิงจากรางรถไฟฟ้าบีทีเอสใส่ผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนาราม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 พ.ค. เปิดเผยถึงเหตุการณ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเฉียดตายว่า วันเกิดเหตุตนอยู่หน้า รร.โฟร์ซีซั่นส์ กำลังเก็บข้าวของในเต็นท์นครพนม 52 ได้ยินเสียงปืนไล่หลังมาจึงขับรถกระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน ของตน ทะเบียน บน 3862 ร้อยเอ็ด เลี้ยวเข้าวัดปทุมวนาราม จอดอยู่ในวัดห่างประตู 6-7 เมตร ขณะเข้าวัดเวลาประมาณ 16.30.-17.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ก็ได้ยินเสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จึงนำรถมาจอดใกล้รถตู้สีขาว ของร.พ.วชิรพยาบาล และมีคนแอบรวมอยู่ด้วยประมาณ 3-4 คน ก่อนที่ทั้งหมดจะมุดเข้าใต้ท้องรถ ส่วนตนชะเง้อมองดูพบว่าที่สะพานรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและเห็นทหาร 1 นายส่องปืนลงมา ก่อนยิงมาที่ตน กระสุนถูกโคนขาด้านขวา 1 นัด และก้นด้านขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ จึงล้มตัวนอนกลิ้งเข้าไปหลบใกล้รถเข็น

เผยนาทีเหยื่อถูกยิงดับหน้าวัด

นายเพิ่มสุข กล่าวระบุว่า คนที่ยิงใส่ชุดทหาร คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงไล่หลัง 4-5 นัด ถ้าตนโผล่อาจจะถูกยิงซ้ำจนตาย พอพลบค่ำเสียงปืนจึงสงบ มีพระภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปช่วยพยุงร่างเข้าที่กำบังในวัด ก่อนนำไปทำแผลกับหน่วยพยาบาลในวัด แล้วส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.ตำรวจ

นายเพิ่มสุข กล่าวต่อว่า ขณะถูกซุ่มยิงบนสะพานรางรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น ตนยังเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังวิ่งเข้ามาบริเวณหน้าวัด เป็นชาย ถูกยิงที่หน้าอก 1 นัด และลำคอ 1 นัด ผู้เห็นเหตุการณ์จึงช่วยอุ้มผู้บาดเจ็บเข้ามาในวัด พยาบาลอาสาพยายามปั๊มหัวใจไม่ถึง 5 นาที ชายคนดังกล่าวจึงเสียชีวิต

"ยืนยันว่าคนที่ยิงเป็นทหารร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบิดาตนคือ ร.อ.สุชาติ ใจเย็น เคยรับราช การที่ ม.พัน.11 ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ก่อนย้ายมา ม.2 พัน.6 จ.ขอนแก่น ผมพบเห็นทหารและคลุกคลีมาแต่เด็กๆ หลังเกิดเหตุวันที่ 20 พ.ค. นอนรักษาตัวที่ร.พ.ตำรวจแล้วจึงถูกส่งตัวกลับ แล้วขับรถกระบะคู่ชีพกลับบ้านที่จ.นคร พนม แต่จนถึงขณะนี้ยังนอนไม่หลับ เกรงจะมีคน ตามมายิงซ้ำอีก

No comments:

Post a Comment