Thursday, July 29, 2010
d91. นายบุญมี เริ่มสุข อายุ 71 ปี
ศพที่ 91 - นายบุญมี เริ่มสุข เหยื่อสไนเปอร์ที่บ่อนไก่ สิ้นใจแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ค. หลังญาติเพิ่งดักรอร้องเรียนนายกรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค. นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 91 จากเหตุการสลายม็อบแดง
"ลุงบุญมี" เหยื่อกระสุน สไนเปอร์ สิ้นใจแล้วเป็นศพที่ 91 หลังลูกสาวดักร้องเรียน"มาร์ค"ที่ร.พ. ตำรวจแค่วันเดียว ให้ช่วยสั่งการหมอให้ดูแลรักษาดีกว่าเดิม พี่สาวช่างภาพอิตาลีบินมาไทยรอบสอง เข้าขอทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัดของน้องชายจากตร.ปทุมวัน แต่ตร.โยนว่าโอนคดีให้ดีเอสไอไปแล้ว เลยบุกทำเนียบเข้าร้องเรียน "องอาจ คล้ามไพบูลย์" ให้ช่วยอีกแรง ทางรมต.รับประสานงานให้ไปพบดีเอสไอในวันรุ่งขึ้น ทางด้านอนุกก. สิทธิฯ ชี้คดีน.ศ.เชียงรายถือป้าย ก็คล้ายคดี "พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" ขณะที่ "บ.ก.ลายจุด" นัดเจออาทิตย์นี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่มีข้อแม้ถ้าน.ศ.เชียงรายถูกคุมขัง จะย้ายไปเชียงรายแทน
-ลุงบุญมีเหยื่อสไนเปอร์-สิ้นใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ก.ค. นายบุญมี เริ่มสุข อายุ 71 ปี ซึ่งบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากกระสุนสไนเปอร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ขณะออกมาที่บริเวณปากซอยบ่อนไก่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อลำไส้ ได้เสียชีวิตแล้วที่ร.พ.ตำรวจ โดยก่อนหน้านี้วันเดียว ลูกสาวเพิ่งเข้าร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปร.พ.ตำรวจพอดี ให้ช่วยดูแลนายบุญมีด้วย เนื่องจากอาการทรุดลงตามลำดับ จนกระทั่งเข้าสู่อาการโคม่า เนื่องจากติดเชื้อในกระแสโลหิต นับเป็นศพที่ 91 แล้ว สังเวยให้กับการชุมนุมและสลายการชุมนุมนปช.
ต่อมาเวลา 09.00 น. นางนันทพร เริ่มสุข อายุ 68 ปี พร้อมด้วยนางณัฐภัสสร เต็มวิจิตร อายุ 44 ปี น.ส.พรพิมล เริ่มสุข อายุ 37 ปี บุตรสาว และญาติๆ เดินทางมารับศพนายบุญมีที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสร้อย
-นายกฯสั่งหมอช่วยก็ไม่ทัน
นางณัฐภัสสร เปิดเผยว่า พ่อตนถูกยิงบริเวณริมถนนพระราม 4 หน้าร้านอาหารระเบียงทอง ขณะกำลังรอรับหลานกลับจากโรงเรียน โดยถูกยิงเข้าที่ท้องด้านซ้าย กระสุนตัดลำไส้เล็กขาด ตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ได้พาตัวส่งร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์ โดยแพทย์ก็ได้ผ่าตัดต่อลำไส้เล็กให้แล้ว แต่ต่อมาปรากฏว่าลำไส้ไม่ยอมต่อกัน ประกอบกับพ่อเคยเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ และที่หน้าท้องด้านขวาก็ยังต้องเจาะท่อใส่สายยางระบายของเสียเนื่องจากผ่าตัดลำไส้ใหญ่มา ทางแพทย์จึงยังไม่ผ่าตัดให้ใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาการหัวใจกำเริบระหว่างผ่าตัด โดยได้ส่งตัวให้มารักษาตัวต่อที่ร.พ.ตำรวจ ที่มีแพทย์เฉพาะทางพร้อมกว่า และเคยมีประวัติอยู่ ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นางณัฐภัสสร กล่าวว่า ตอนที่มายังร.พ. ตำรวจก็ยังมีสติ สามารถพูดคุยลุกนั่ง ขับถ่ายเองได้ แต่มาเริ่มมีอาการไม่ดีเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.ค. โดยเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง จำใครไม่ได้ ทางแพทย์ได้แจ้งว่าอาจจะมีอาการติดเชื้อและได้เจาะเลือดไปเพาะเชื้อ แต่ก็ยังให้นอนอยู่ที่ห้องผู้ป่วยรวมเหมือนเดิม จนกระทั่งอาการเริ่มหนักขึ้นจนไม่รู้สึกตัว ทางตนและน้องสาวจึงไปต่อว่า จนทางแพทย์ยอมย้ายพ่อตนเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) ตนได้ร้องเรียนนายกรัฐมนตรี และทางนายกฯ สั่งการให้ดูแลพ่อตนให้เต็มที่ ทำให้ตนทราบว่าพ่อติดเชื้อในกระแสเลือด ทางแพทย์จึงระดมให้ยาอย่างดี ทำให้ช่วงแรกอาการพ่อเริ่มดีขึ้น แต่เมื่อตี 2 อาการพ่อกลับทรุดลงไปอีกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเวลา 06.00 น. หลังจากนี้ทางญาติจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหัวลำโพง
ศาลา 2 โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 17.00 น.
ที่มา วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7182 ข่าวสดรายวัน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREk1TURjMU13PT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOeTB5T1E9PQ==
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment